CTA คือ อะไร ใช้ประโยชน์อย่างไรบนเว็บไซต์

CTA คือ …การเพิ่มยอดขายให้กับผู้ประกอบธุรกิจจากเว็บไซต์ของตนเอง นอกจากการดีไซน์เว็บไซน์ได้สวยงามและใช้งานง่ายแล้ว การดึงความสนใจลูกค้าให้ซื้อหรือใช้บริการให้ได้เพียงเสี้ยววิที่เข้ามาในเว็บไซต์ จากการทำ CTA (Call To Action) จะช่วยเพิ่มกระบวนการตัดสินใจของลูกค้าได้อีกด้วย

แล้ว CTA คือ อะไร วิธีการสร้าง CTA บนเว็บไซต์เป็นอย่างไร มีประโยชน์ขนาดไหนกับเว็บไซต์ของเจ้าของธุรกิจ ไปศึกษาพร้อมกันจากบรรทัดต่อจากนี้

รู้หรือไม่ CTA คืออะไร

CTA คือ กลยุทธ์ทางด้านการตลาดรูปแบบหนึ่ง หรือมีชื่อเรียกเต็มๆ ว่า Call To Action ที่ช่วยดึงดูดความสนใจจากลูกค้าได้เป็นอย่างดี ซึ่งการทำ CTA มีหลากหลายรูปแบบ เจ้าของธุรกิจสามารถเลือกใช้ให้ตรงกับธุรกิจของตนเองได้ ซึ่งมีวิธีการสร้าง CTA (Call To Action) บนเว็บไซต์ ดังนี้

1.สามารถสร้าง CTA โดยการเลือกใช้คำหรือประโยคสั้นๆ เพื่อดึงดูดสายตา โดยรูปประโยคที่ใช้ไม่สั้นหรือไม่ยาวจนเกินไป แต่ต้องใส่รายละเอียดให้ครบถ้วน หรือเป็นคำสั้นๆ อ่านแล้วต้องสะดุด 

2.การดีไซน์ CTA ที่ได้ผลดี เช่น การเลือกแบบตัวอักษร ขนาดตัวอักษร สี ต้องมีความโดดเด่น สวยน่ามอง

3.ตำแหน่งในการจัดวาง CTA (Call To Action) มีส่วนสำคัญ ควรวางให้เห็นชัดไม่มีอะไรมาบังหรือเล็กจนมองไม่เห็น ทั้งนี้จะต้องเห็นเด่นชัดไม่ว่าจะเปิดดูในอุปกรณ์ใดก็ตาม

4.การทำปุ่มกด CTA สำหรับเทคนิคการสร้างปุ่มกดบนเว็บไซต์ ควรเลือกสีให้ตัดกับพื้นหลังเพื่อจะได้มีความโดดเด่น เลือกใช้ฟอนต์บนปุ่มกดแบบอ่านง่ายๆ ชัดเจน ใช้คำที่หลากหลายเพื่อสร้างความสนใจ โดยการสร้างปุ่มกด CTA สามารถทำได้ตั้งแต่ ปุ่มกด CTA ให้ลูกค้าคลิกดูรายละเอียดภายในเว็บไซต์ ปุ่มกดที่กระตุ้นการสั่งซื้อ ปุ่มกดการจองสินค้า หรือปุ่มกดการเข้ามาสมัครสมาชิกในเว็บไซต์  ยกตัวอย่างของปุ่มกด CTA ที่มีคุณภาพ เช่น ดาวน์โหลดฟรี สมัครเลยวันนี้ รับส่วนลด 20% วันนี้เท่านั้น ติดต่อเราทันที ทดลองใช้ฟรี Shop Now เป็นต้น         

ดังนั้นการทำ CTA สามารถทำได้หลายรูปแบบ ซึ่งเป็นการสื่อสารสิ่งที่เจ้าของธุรกิจต้องการที่จะนำเสนอให้ตรงกับกลุ่มลูกค้าของตนเองบนเว็บไซต์ เมื่อการทำ CTA บนเว็บไซต์ได้ผล จะทำให้กลุ่มลูกค้ามีการโต้ตอบกลับมาในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง เช่น มีการกดปุ่มเข้ามาศึกษาข้อมูลและดาวน์โหลด มีการลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลทางด้านโปรโมชั่น หรือสมัครสมาชิก เป็นต้น (ข้อมูลจาก สารบัญเว็บไซต์ข้อมูลธุรกิจในประเทศไทย) 

เว็บไซต์ที่ดีประกอบด้วยอะไรบ้าง

ปัจจุบันเว็บไซต์สามารถนำเสนอข้อมูลให้น่าสนใจได้หลายรูปแบบ ซึ่งมีทั้งภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว เสียง ข้อความ การทำ CTA ดังนั้นการออกแบบเว็บไซต์ที่ดีควรประกอบด้วยอะไรบ้าง ลองมาพิจารณาเป็นข้อๆ ดังนี้ 

1.การสร้างเนื้อหาที่ Keyword ชัดเจน เป็นสิ่งที่สำคัญมากในการทำ SEO เพราะ Keyword จะช่วยให้เว็บไซต์ปรากฏในผลการค้นหาของ Google ได้ดีขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการเพิ่มผู้เข้าชม ดังนั้นการวิเคราะห์ Keyword ให้เหมาะสมและชัดเจนเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องทำให้เหมือนเป็นมืออาชีพในการสร้างเนื้อหาของเว็บไซต์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและเพิ่มโอกาสในการเติบโตของธุรกิจเป็นอย่างมาก 

2.มีความเข้าใจง่าย จัดหมวดหมู่ให้เป็นระบบระเบียบ จะทำให้ง่ายต่อการใช้งานของผู้เข้ามาเยี่ยมเว็บไซต์ โดยการนำเสนอในรูปแบบที่หลากหลาย ไม่ดูรกจนเกินไป หากหน้าเว็บไซต์ดูรกจนเกินไปจะสร้างความเบื่อหน่าย น่ารำคาญให้กับผู้ที่เข้าชมเว็บไซต์ได้ 

3.สร้างความน่าเชื่อถือให้ได้มากที่สุด ตั้งแต่การออกแบบเว็บไซต์ให้สวยงาม ข้อมูลอ่านง่าย มีช่องทางการติดต่อชัดเจน มีการระบุตัวตน อาจเป็นข้อมูลทางสถิติหรือตัวเลขที่ทำให้เข้าใจง่าย

4.เนื้อหาเป็นสิ่งที่สำคัญในการสร้างเว็บไซต์หรือบริการ ซึ่งเนื้อหาต้องไม่มากไม่น้อยเกินไป เนื้อหามีการโน้มน้าวให้สนใจในการเลือกใช้สินค้าหรือบริการ เพราะเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้เข้าชมเว็บไซต์เกิดความสนใจและอยากเข้ามาติดตามเว็บไซต์ นอกจากนี้จะต้องมีการปรับปรุงพัฒนาเนื้อหาบนเว็บไซต์ให้มีความทันสมัยอยู่เสมอ รวมถึงข้อมูลต้องมีความถูกต้องที่สุด เพื่อสร้างความประทับใจให้กับผู้เข้าชมเว็บไซต์   

 5.ใช้รูปหรือวิดีโอประกอบ เพื่อประกอบการอ่านและเพิ่มความเข้าใจให้แก่ผู้เข้าชมเว็บไซต์ และยังเป็นการ
ตกแต่งหน้าเว็บให้น่าอ่านอีกด้วย

6.การทำปุ่มกด CTA คือ ปุ่มที่ช่วยกระตุ้นให้ผู้อ่านดำเนินการบางอย่าง เช่น คลิกลิงก์ ดาวน์โหลดเอกสาร สมัครรับข่าวสาร หรือการโต้ตอบบางอย่างกับสินค้าหรือบริการของเรา ซึ่งปุ่ม CTA ที่ดีควรมีข้อความที่ชัดเจน สะดุดตา ตรงประเด็น โดยคุณภาพของปุ่มกดจะมีคุณภาพแตกต่างกัน เช่น สี ขนาด ตำแหน่ง ข้อความ รูปภาพ ไอคอน เป็นต้น

7.มีความสะดวกสบายในการใช้งาน จะต้องมีการแสดงผลได้ในทุกระบบปฏิบัติงาน เช่น  Web Browser คอมพิวเตอร์ Notebook และบนโทรศัพท์มือถือ

8.ต้องคำนึงถึงผู้ใช้งาน ควรมีความรู้เกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์บ้าง หรือให้นึกถึงตอนเวลาใช้เว็บไซต์ เช่น ปุ่ม CTA ควรจะอยู่กึ่งกลางหรือทางด้านบนของเว็บไซต์ เพราะมองเห็นง่าย และคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยเลื่อนลงมาจนถึงด้านล่าง หรืออาจจะมี Pop up ขึ้นมาในหน้าเว็บไซต์มุมใดมุมหนึ่งก็ได้    

กล่าวโดยสรุป หลักการสร้างเว็บไซต์ที่สำคัญคือ การออกแบบเว็บไซต์ที่ดี ควรออกแบบให้สวยงามสะดุดตาสวยงาม มีการกำหนด Keyword ในการออกแบบเว็บไซต์ให้ชัดเจนว่าจะออกแบบไปในทิศทางไหน มีการออกแบบโครงสร้างรวมถึงการวางผังบนหน้าเว็บไซต์ และทุกธุรกิจจะต้องมี CTA (Call To Action) ประจำเว็บไซต์ เพื่อช่วยดึงดูดผู้ชมบนเว็บไซต์ ใครเห็นก็ต้องคลิก 

 เมื่อมาถึงตรงจุดนี้แล้ว เจ้าของธุรกิจก็พอจะทราบถึงประโยชน์ในการทำ CTA (Call To Action) บนเว็บไซต์กันพอสมควร ดังนั้นหากธุรกิจใดยังไม่มีเว็บไซต์เป็นของตนเอง และยังไม่มีเจ้าตัว CTA คอยช่วยทำการตลาดให้ ลองมองหาบริษัทรับทำเว็บไซต์ที่มีทีมงานครบ และพร้อมให้คำแนะนำดีๆ มาช่วยสร้างอาณาจักรธุรกิจของคุณจะดีกว่าไหม